Festival and Events

ประเทศไทยเทศกาลและกิจกรรม
ผู้มาเที่ยวและเดินทาง แปลกใหม่ของการผจญภัยมรดกวัฒนธรรมไทย มีหลากหลายบุคคล เช่น marvellers, ช่างภาพ, รัก, ธรรมชาติ, ผู้หรูหราและ hedonists ประชากรที่แสวงหาสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่เมืองไทย จะได้พบกับความประทับใจและรู้สึกถึงความมหัศจรรย์กับลักษณ์ที่ทั้งโลกไม่มีคือ ความเป็นไทยของเรา ประเทศไทย หรือราชอาณาจักรไทย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และความเป็นมาอันยาวนาน เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์หรือยุคแรกเริ่ม ที่มีชุมชนมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นในดินแดนลุ่มแม่น้ำแห่งนี้ รวมตัวก่อตั้งเป็นอาณาจักรและก่อกำเนิดวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ สืบต่อและพัฒนาผ่านกาลเวลาเรื่อยมา จนกระทั่งเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน และได้ก่อให้เกิดวัฒนธรรมต่างๆมากมายในประเทศไทยของเรา

ตัวอย่างเทศการในประเทศไทย

-ที่ 11 ไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนลเทศกาลว่าว (สีฟ้า)ว่าวบินเป็นกีฬาที่นิยมทั่วโลกที่มีการพัฒนาในช่วงทศวรรษที่ผ่านม

-โลกศิลปะการต่อสู้ไทยเทศกาลและพิธี Waikru มวยไทย (นาย Khanomtom วัน) โลกของไทยเทศกาลศิลปะการต่อสู้
  ในมวยไทย, มวยมักจะนำการต่อสู้กับไหว้ครูและประเพณีนี้ยังคงเป็นลักษณ์

-พัทยาอินเตอร์เนชั่นแนลมิวสิคเฟสติวัล
  เทศกาลดนตรีพัทยาแกรนด์จะกลับมาในเมืองเพื่อความบันเทิงที่ชื่นชอบเพลง นี้เป็น OP ที่ยอดเยี่ยม

-แม่น้ำโขงระหว่างประเทศแบบ Multi – Sport
  ที่ชอบเล่นกีฬาเดินทางไปยังเมืองชายแดนแม่น้ำโขงในการแข่งขันเพื่อพระสิริและกระเป๋าหล่อ

วันหยุดประจำปีของไทย

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 วันมาฆบูชา
6 เมษายน วันจักรี
6 เมษายน วันมาฆบูชา
13-15 เมษายน วันสงกรานต์
13 เมษายน วันผู้สูงอายุ
14 เมษายน วันครอบครัว
1 พฤษภาคม วันแรงงานแห่งชาติ
5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล
วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 วันวิสาขบูชา
ข้างขึ้น เดือน 6(แล้วแต่สำนักพระราชวังกำหนดวันอุดมฤกษ์) วันพืชมงคล
1 กรกฎาคม วันหยุดภาคครึ่งปีธนาคาร
วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 วันอาสาฬหบูชา
วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 วันเข้าพรรษา
12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ (วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ)
23 ตุลาคม วันปิยมหาราช
5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ, วันชาติ (วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว)
10 ธันวาคม วันรัฐธรรมนูญ
31 ธันวาคม วันสิ้นปี

Photography

ทุกที ที่เราไป อาจสร้างความประทับใจแต่ก็ชั่วคู่หนึ่ง แต่ถ้าหากเราบันทึกภาพ ความทรงจำเหล่านั้นก็ยังคงอยู่กับเราตลอดไป ภาพหนึ่งภาพ สามารถถ่ายทอดความหลายหลายและเกินกว่าคำบรรยายที่เราจะพูดออกไปให้คนฟัง

Central

                              วัดอรุณราชธาราม
ประวัติความเป็นมา
      เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า “วัดแจ้ง” วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงถือเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 2 เมื่อบูรณะเสร็จแล้วได้พระราชทานนามว่า “วัดอรุณราชธาราม” ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้มีการก่อสร้างพระปรางค์องค์ใหญ่ มีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร และมีพระปรางค์องค์เล็กอยู่รอบพระปรางค์ใหญ่อีก 4 ทิศ แต่มาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และทรงเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดอรุณราชวราราม” พระปรางค์วัดอรุณถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันไปทั่วโลก เป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย
    วัดอรุณฯ ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอัมรินทร์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ตรงข้ามกับวัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) การเดินทาง ขอเริ่มจากสนามหลวง ผ่านถนนหน้าพระลานทางประตูทางเข้าด้านหน้าของวัดพระแก้ว ให้เลี้ยวซ้ายทางที่จะไปยังวัดโพธิ์ ก่อนถึงวัดโพธิ์เล็กน้อยฝั่งตรงข้ามจะมีซอยเข้าไปยังท่าเตียนสำหรับลงเรือข้ามฟากไปยังวัดอรุณฯ สังเกตป้าย Exchange ของธนาคารกรุงเทพหน้าซอย ถึงท่าเรือให้เข้าทางช่องซ้ายเพื่อขึ้นเรือข้ามฟาก ช่องขวาเป็นท่าเรือด่วนเสียค่าเรือคนละ 3 บาทเท่านั้น

  พระที่นั่งอนันตสมาคม
  ประวัติความเป็นมา
                  อาคารหินอ่อนศิลปะสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกหลังนี้ เริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2450 ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่รับรองแขกเมือง และใช้สำหรับประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน ภายหลังจากที่สร้างพระที่นั่งอัมพรสถานในเขตพระราชวังดุสิตเสร็จแล้วในปี พ.ศ.2449 โดยทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นแม่กองจัดการก่อสร้าง ให้นาย มาริโอ ตามาโย สถาปนิกชาวอิตาลีเป็นนายช่างออกแบบ ให้
ศาสตราจารย์ แกลิเลโอ คินี และ นาย ซี. ริกุลี เป็นช่างเขียนภาพ พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นพระที่นั่งที่สร้างขึ้นตามสถาปัตยกรรมแบบอิตาเลียนเรอเนสซองส์ ภายนอกประดับด้วยหินอ่อนซึ่งสั่งมาจากประเทศอิตาลี องค์พระที่นั่งเป็นอาคารหินอ่อนสองชั้น มีโดมสูงใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีโดมเล็ก ๆ โดยรอบอีก 6 โดม ชั้นบนเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ แบ่งเป็นท้องพระโรงหน้าและท้องพระโรงหลัง บนเพดานโดมของพระที่นั่ง มีภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ที่สวยงามจำนวน 6 ภาพ แสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 6 โดยฝีมือเขียนภาพของศาสตราจารย์แกลิเลโอ คินี และนาย ซี.ริกุลี      การก่อสร้างพระที่นั่งอนันตสมาคม ได้ดำเนินการจนสำเร็จบริบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ.2458 รวมใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 8 ปี งบประมาณค่าก่อสร้างตามราคาในสมัยนั้นคิดเป็นเงิน 15 ล้านบาท

     สวนสัตว์ดุสิต (เขาดินวนา)
     ประวัติความเป็นมา 
     สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ภายในบริเวณพระราชวังดุสิต เป็นสวนพฤกษชาติส่วนพระองค์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 8 ได้ทรงให้ทางเทศบาลกรุงเทพฯ จัดสร้างให้เป็นสวนสัตว์และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทุกระดับชั้น และมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ ตลอดมา
     เขาดินเป็นสวนสัตว์ใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ มีพื้นที่ 118 ไร่ มีสัตว์ป่าราว ๆ 2,000 ตัว ทั้งที่หายากและเกือบจะสูญพันธุ์แล้ว มีต้นไม้นานาชนิดที่ให้ความร่มรื่นและบึงน้ำขนาดใหญ่ที่สวยงาม เหมาะเป็นที่ศึกษาเรียนรู้ชีวิตสัตว์สำหรับนักเรียน นักศึกษา และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป

East

 เกาะช้าง

                                  เกาะช้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ อีกแห่งหนึ่งของประเทศ เพราะมีธรรมชาติอันงดงามทั้งบนบกและในทะเล มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก มีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทำ มีการคมนาคมที่สะดวกเพราะมีสนามบินอยู่ใกล้เคียง ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และเติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบเกาะช้างเหมาะสำหรับการไปเที่ยวทั้งเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว และไปกับคู่รัก ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนเกาะช้างเป็นจำนวนมากในแต่ละปี

เมื่อพูดถึง “พัทยา” น้อยคนนักจะไม่รู้จัก เพราะพัทยาในวันนี้มีชื่อเสียงโด่งดังกลายเป็นชายหาดตากอากาศยอดนิยมอันดับหนึ่งของภูมิภาค และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ผู้คนนับล้านจากทั่วทุกทวีปต้องการมาสัมผัส รวมทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับต้นๆ สำหรับการท่องเที่ยวและพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคนกรุงเทพฯ มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลากหลายรูปแบบ มีกิจกรรมท่องเที่ยวนานาชนิดให้เลือกทำ มีที่พัก รีสอร์ต และโรงแรมชั้นนำมากมาย การคมนาคมสะดวกสบายแล้ว พัทยายังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไป-กลับได้ในวันเดียว ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จึงถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย

เกาะกูด

 เกาะสุดท้ายปลายทะเลตะวันออกในจังหวัดตราดของไทย ติดชายแดนทางทะเลของกัมพูชา ด้วยความที่เป็นเกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจากเกาะช้าง ทำให้ดินแดนแห่งนี้เปี่ยมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มากมาย และสวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวและการพักผ่อน
ด้วยพื้นที่ที่เป็นภูเขาและที่ราบสันเขา จึงเป็นต้นกำเนิดลำห้วยต่างๆ ซึ่งก็ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกหลายแห่ง บนเกาะกูดยังมีสถานที่ท่องเที่ยว คือชายหาดเนียนละเอียด เคียงข้างน้ำทะเลใสแจ๋ว อีกทั้งยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังนานาชนิด จนได้รับสมญานามว่า “อันดามันแห่งทะเลตะวันออก”

North

สวนสัตว์เชียงใหม่
สวนนกนครพิงค์ เดินชมธรรมชาติและฟังเสียงนกชนิดต่างๆ กว่า 800 ตัว ในพื้นที่ 6 ไร่หมีแพนด้า สัมผัสความน่ารักของ 2 หมีแพนด้า ช่วง ช่วงและหลินฮุ่ย ทูตสันถวไมตรีจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ สวนสัตว์เชียงใหม่   ศูนย์จัดแสดงนกเพนกวิน สัมผัสนกเพนกวิน (Humboldt Penguin) ในศูนย์แสดงที่จัดเป็นสระน้ำตามสภาพที่นกเพนกวินอาศัยอยู่เกาะชะนี สถานที่เพื่อการใช้ชีวิตอย่างอิสระของชะนี บรรยากาศปลอดโปร่งเสมือนหนึ่งอยู่ในแหล่งธรรมชาติที่แท้จริง เพื่อให้คุณได้เข้าถึงการดำรงชีวิตของสัตว์ป่าสร้างความคุ้นเคยระหว่างคนกับสัตว์ได้อย่างกลมกลืนอาคารเลี้ยงแมวนํ้า อาคารที่จัดแสดงประกอบด้วย แมวนํ้า (Cape Fur Seal) จำนวน 5 ตัว จากประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้มาเลี้ยงในอาคารดังกล่าวอุทยานสัตว์น้ำ สัตว์น้ำจืดกว่า 60 ชนิด รวมทั้งปลาบึกยักษ์ลุ่มแม่น้ำโขง ปลาบึกลายและ Siamese Giant Carp อีกทั้งปลาไหล Ture Eel ซึ่งหาดูได้ยากรอคุณอยู่ที่ศูนย์แสดงแห่งนี้ค่ายพักแรม ท่านสามารถขอจัดเต๊นท์นอนค้างคืนในบริเวณที่สวนสัตว์จัดให้ เพื่อเป็นประสบการณ์ในการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีทัศนียภาพที่สวยงามโดยไม่ต้องเดินทางไกล

อุถยานแห่งชาติถอยสุเทพ
อุถยานแห่งชาติถอยสุเทพที่ตั้งอยู่ในเขตอำเมือง แม่ริม และหางดง ของจังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมด 163,162.5 ไร่หรือประมาณ 261 ตารางกิโลเมตร จุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติอยู่บริเวณ ดอยปุย ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,658 เมตร อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ประกอบด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ แม้ว่าจะตั้งอยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มาก แต่ป่าส่วนใหญ่อยู่บนภูเขาสูงสลับซับซ้อน ภูเขาสำคัญได้แก่ ดอยสุเทพ ดอยปุย เป็นต้น นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ 2 แห่งได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยในวันที 13 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2521 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้ประกาศให้ดอยอินทนนท์เป็นอุทยานแห่งชาติสภาพป่าเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพล มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เช่น น้ำตกต่างๆ โดยเฉพาะน้ำตกแม่ยะ ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดของประเทศอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีเนื้อที่ประมาณ 482.4 ตารางกิโลเมตร หรือ 301,500 ไร่สภาพภูมิประเทศทั่วไปประกอบด้วยภูเขาสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงจาก ระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร ยอดเขาที่มีระดับสูงรองลงมาคือ ดอยหัวมดหลวง สูงจากระดับน้ำทะเล 2,330 เมตร ป่าอินทนนท์นี้เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำแม่กลาง แม่ป่าก่อ แม่ปอน แม่หอย แม่ยะ แม่แจ่ม แม่ขาน และเป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำแม่ปิงที่ให้พลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนภูมิพลดอยอินทนนท์ นี้เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า